• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

8 สิ่งที่ได้รู้ จากการเป็นผู้รับจ้างมาครึ่งชีวิต

Started by Jenny937, April 06, 2023, 09:42:27 AM

Previous topic - Next topic

Jenny937

1. เพราะว่าเราไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อดำเนินงานอย่ างเดียว

พวกเราไม่ได้ปฏิบัติงานแล้วแฮปปี้ทุกๆวัน บ่อยครั้งที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย ากจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แม้กระนั้นถ้าเกิดเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต ได้แก่ วิ่งมาราธอน, ปลูกต้นไม้ หรือแม้กระทั่งต่อ ป.โท

การเปลี่ยนโหมดมาทำเรื่องที่เราถูกใจจะทำให้อารมณ์เบิกบานขึ้น รวมทั้ง เพิ่มความเชื่อมั่น เพราะเหตุว่าการเฟลจากที่ดำเนินการส่วนใหญ่มักทำให้เราเสียกำลังใจ รวมทั้งขาดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง ส่วนตัวเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน และก็ อีกมากมาย


ยกตัวอย่ าง... มีเพื่อนฝูงคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย ขมักเขม้นขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร ์อาทิตย์ ช่วงนี้ปฏิบัติงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย จนกระทั่งตอนนี้เปิดร้านขายออนไลน์สร้างเป็นอาชีพเสิรมที่มีรายได้มากกว่างานประจำไปละ

2. หัวหน้าก็คนนะ.. ทราบยัง

สำหรับมนุษย์เงินเดือนตัวจ้อยอย่ างเรา สิ่งที่เราเคารพนับถือที่สุดในสถานที่ทำงานก็น่าจะหนีไม่พ้นนายจ้าง ผู้ที่เป็นหัวหน้างานเองก็มีนิสัยต่างๆนาๆ อย่ างตัวเราเคยเจอในขณะที่แบบขึ้นชื่อว่าโ ห ด สุดๆทำงานมาก ไปจนกระทั่งวันๆไม่ทำงานทำการ รอสั่งคนนู่นหนคนนี้ครั้ง แม้กระนั้นพอได้ดูดีๆพวกเราก็พบว่า เฮ้ย หัวหน้าก็คนนี่หว่า

แต่ว่าคนๆนี้มันจะมาบ่นว่าขี้เกียจคร้านตื่น หรือโดนนายสั่งงานมากมายมิได้ยังไง เพราะอะไรน่ะหรอ นอกเหนือจากการที่จะโดนหัวหน้าของเค้าเองหมั่นไส้แล้ว ลูกน้องก็ยังจะไม่ให้ความเคารพนับถือด้วย หนำซ้ำอาจจะพาลกันเสียระบบการปกครองทั้งทีม


หากให้แนะนำก็อย ากจะกล่าวว่าพย าย ามเข้าใจเค้าดีมากกว่าว่าเค้าก็เป็นมนุษย์อย่ างเราๆนี่แหละ เป็นคนดีบ้ า งคนพาลบ้ า ง นิสัยก็แตกต่างกันบ้ า งคือเรื่องธรรดา อย่ ามองว่าพวกเรากับเค้าอยู่คนละขั้วกัน อย ากให้มองในมุมที่ว่าหากเราไม่ทำงานให้เค้า เค้าจะเอางานที่แห่งไหนไปส่งละ จริงๆหัวหน้าเลิกงานก็อย ากกลับบ้ า นไปพบครอบครัว

มิได้อย ากอยู่ดึกดื่นๆให้คนที่บ้ า นเป็นห่วงหรอก เวลาว่างก็มิได้อย ากดำเนินงาน ก็อย ากไปเที่ยวแบบเดียวกันนั่นแหละ แม้กระนั้นเพียงแค่ออกหน้าชอบบ่นแบบพวกเราไม่ได้ ตำแหน่งมันค้ำคอ ลองนึกถึง

แค่เราพรีเซนเทชั่นงานกับหัวหน้าก็เกร็งจะแ ย่ นี่เค้าจำต้องเอางานเราไปพรีเซนเทชั่นกับหัวหน้าฝ่าย หรือ CEO ลูกน้องคนไหนกันแน่ที่ช่วยแบ่งเบาภาระเค้าได้มาก เค้าก็จะรักคนนั้นเป็นปกติ

3. อย่ ามั่นใจในตัวเองเกินไปในโลกออนไลน์

หลายๆคนมั่นใจว่าโลกโซเชียลเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโ พ ส ต์ อะไรมันก็สิทธิ์ของเรา แม้กระนั้นทราบรึเปล่าว่า HR ยุคนี้นอกจากจะมอง resume เราแล้ว ยังดูเ ฟ ส บุ ค ของเราด้วย เพื่อนเราที่เป็น HR รับรองมาว่า Social media บอกความเป็นตัวตนที่จริงจริงของพวกเราได้มากกว่า Resume เป็นสิบเท่า เห็นไหมว่าตัวตนบนโลกอินเตอร์เน็ต

ของพวกเรานั้นส่งผลกับพวกเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นพนักงานประจำสุดกำลัง เรื่องเหล่านี้ยิ่งต้องระวัง อย่ างพวกเราเป็นไม่สัมผัสเฟสบุ้คเลย หรือถ้าจะโ พ ส ต์ /แ ช ร์อะไร ก็คิดแล้วว่าถ้าหากหัวหน้ามาเห็นก็ช่างเถิด


ถ้าหากอย ากมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆชี้แนะให้แยกเฟสสถานที่สำหรับทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาลำธารที่พด้วย เนื่องจากว่า ส่วนใหญ่คนภายในสถานที่สำหรับทำงานเค้าก็ขอแอดกันอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องดราม่าในที่ทำงาน คนนั้นคนนี้ เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลา ห้ามโ พ ส ต์ เด็ดขาด โ พ ส ต์ ปุ้บมีคนแคปปั้บแน่นอน...!! เตือนแล้วนะ

4. จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา พอใจ ตั้งใจ แต่... อย่ าเก็บทางวิ่งคนอื่นๆมาอิจฉาริษยา

ตอนปีมานี้ เพื่อนฝูงเราคนไม่ใช่น้อยเริ่มศึกษาต่อ สร้างครอบครัว บางคนแปลงงานไปงานที่ค่าตอบแทนรายเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตน บางทีพวกเราเลื่อนมองหน้าเฟสและก็แอบคิดนะว่า เฮ้ย...!! คนนั้นคนนี้ได้ดิบได้ดี แล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ แต่ว่าบอกเลยว่าชีวิตพวกเขาก็มิได้ดีมากยิ่งกว่าเราหรอกเผลอๆเพื่อนฝูงหลายท่านบางครั้งอาจจะกำลังอิจฉาชีวิตพวกเราอยู่ก็ได้

เคยมีคนเดินมาบอกพวกเราว่าแหม ชีวิตดีจังนะ... เป็นตัวเราเองก็ไม่ได้คิดเลยว่าชีวิตพวกเราดี สิ่งที่เราคัดเลือกกรองโ พ ส ต์ ลงโซเชียลนั่นแหละที่ดี จงจดจำไว้ว่าอย่ าเอาจังหวะชีวิตของพวกเราไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น

โฟกัสที่ลู่วิ่งของพวกเรา ทราบว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร รู้ว่าที่หมายพวกเราปรารถนาอะไร ทราบดีว่าวันนี้พวกเราปฏิบัติดีกว่าเมื่อวานแล้วหรือยัง ก็เพียงพอแล้ว แอบดูลู่วิ่งบุคคลอื่นบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงก ร ะ ตุ้ น ให้เราจริงจังกับชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นอย่ าเก็บมาตั้งใจกระทั่งกลัดกลุ้มเพียงพอ

5. เล่นการเมืองกับทุกคน

ประเดี๋ยวก่อน...!! อย่ าพึ่งตกใจไป.. เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้แสดงว่า ให้เราไม่ต้องจิรงใจกับคนไหนกัน แต่ว่า... มีความหมายว่า " พวกเราไม่ใฝ่ใจข้างใด " อย่ างที่รู้กันว่าในสำนักงานหลายๆที่

มีการเล่นพรรคเล่นพวก หรืออยู่ๆก็จะมีเสียงแว่วมาว่า คนนี้เด็กคนนั้น ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตุมาเป็นระยะเวลา 3 ปี พบว่าผู้ที่เล่นการเมือง (มากมายๆ) ส่วนใหญ่ไม่มีความสุข ยิ่งพวกที่ตำแหน่งโตๆแต่เล่นเค้าไว้เยอะนี่ห้ามพลาดท่าเลยจ๊า มีคนรอซ้ำมากมายเลย


" เล่นการเมืองกับทุกคน " ในความหมายนี่คือ... การที่เรามองว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้อย่ างไร ไม่ได้พูดว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือ ฝืนตนเอง แต่... แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความชื่นชอบ

โตมาในสังคมที่ต่างกัน การที่เราดูแล้วรู้ว่าจะ " อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร " ได้อย่ างไรจะมีผลให้พวกเราได้เปรียบมากมายๆเว้นเสียแต่วางตัวง่ายแล้ว เราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางคนที่ดูแล้วไม่ถูกจริตกัน

การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย าท ไม่มีความจำเป็นต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... เราไม่เคยรู้หรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปทำงานกับผู้ใดกัน ฉะนั้น อย่ าสร้างศั ต รู เด็ดขาด ถึงไม่ได้ร่วมงานกันในบริษัทนี้ แต่ในอนาคต บางทีอาจได้โครจรมาร่วมงานกันในที่ใหม่ๆก็ได้

6. โดนด่าวันนี้ ดีมากยิ่งกว่าโดนดุตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุยังน้อย ความคาดหวังจากคนรอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ถึงแม้พวกเราจะรู้สึกบีบคั้นในการดำเนินงานสุดๆแต่เชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดีมากยิ่งกว่าพวกเราไปล้มตอนอายุ 50 พี่ๆที่เขาอยู่จนถึง 50-60 ก็ผ่านระยะเวลาแบบเรามาแล้ว

สิ่งที่อย ากจะเสนอแนะเป็น.. ใช้เวลานี้ให้คุ้ม เรามิได้อายุ 20 กว่าๆตลอดไป อย ากทำอะไรทำ อย าคำกล่าวมอะไรโ ง่ๆก็ให้รีบถาม พรีเซ้นแล้วมันไม่ดีก็พรีเซ้นไปเรื่อยๆฝึกไปเรื่อยโดนด่าขณะนี้

เ จ็ บ น้อยกว่าโดนดุตอนอายุ 50 เยอะแยะ ถึงจะผิดพลาด ด้วยความยังเด็ก และ อ่อนประสบการณ์ คนจำนวนมากพร้อมจะให้อภัยเราเสมอ ด้วยเหตุนี้ ล้มเหลวไม่น้อยเลยทีเดียวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

วามผิดแผกแตกต่างระหว่าง " เพื่อนพ้อง " กับ " สหายร่วมงาน " เป็นยังไง ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาเพื่อนย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาสหายใหม่ไม่ย ากเท่าสมัยมัธยม รวมทั้งการหาเพื่อนในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแสดงว่ายิ่งพวกเราโตขึ้นเท่าใด พวกเราจะหาเพื่อนฝูงย ากขึ้นเท่านั้น และไม่จำต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนพ้องแท้จริงใจคนนึงในสำนักงานมันย ากแค่ไหน


นอกเหนือจากการที่จะมีเรื่องผลตอบแทน ทั้งยังตำแหน่ง เงินเดือน การคาดการณ์ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของผู้คนเงินเดือนอย่ างเราคือไปดำเนินการ ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสมาคมหาเพื่อนฝูง ดังนั้นวันๆเราก็เลยจะเจอเพียงแค่เพื่อนร่วมทีม ซึ่งส่วนใหญ่รวมทั้งเป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น

เราโชคดีที่เจอกลุ่มที่ดี คุยได้อีกทั้งเรื่องส่วนบุคคลรวมทั้งเรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน และก็เพื่อนร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้ววางใจแบบนี้ พวกเรามีความคิดว่ามันเป็นผลกำไรชีวิต พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้พบในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหน่อยก็ยังดี ) ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ทีมเดียวกันก็ได้ เพียงแค่ได้เผชิญ

สนทนาแลกความเซ็งดีแล้ว ให้เราลองถามตัวเองว่า "ถ้าหากพวกเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม" ถ้าหากคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณเจอเพื่อนจริงๆในสถานที่ทำงานแล้ว

7. หาคนที่เป็นมากกว่า " เพื่อนร่วมงาน " ให้พบ แล้วจะอย ากไปทำงานมากขึ้น

ความไม่เหมือนระหว่าง " เพื่อนฝูง " กับ " เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน " เป็นยังไง ที่เค้ากล่าวว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย ากก็คงจะจริง ยุคประถม การหาสหายใหม่ไม่ย ากเท่ายุคมัธยม และการหาเพื่อนพ้องในยุคมัธยมก็ไม่อย ากเท่าตอนเข้ามหาวิทย าลัย มันแปลว่ายิ่งเราโตขึ้นเยอะแค่ไหน พวกเราจะหาเพื่อนพ้องย ากขึ้นเท่านั้น

และไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนที่แท้จิตใจคนนึงในสำนักงานมันย ากเพียงใด นอกเหนือจากการที่จะมีเรื่องมีราวผลตอบแทน ทั้งตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การประมาณ เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของคนเราเงินเดือนอย่ างเราคือไปดำเนินงาน ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสโมสรหาสหาย เพราะฉะนั้นวันๆเราก็เลยจะพบแค่เพื่อนร่วมกลุ่ม ซึ่งส่วนมากและก็เป็นการคุยกันเพียงแค่เรื่องงานแค่นั้น

พวกเราโชคดีที่พบทีมที่ดี คุยได้อีกทั้งเรื่องส่วนตัวและก็เรื่องงาน เรียกได้ว่าเป็นทั้งเพื่อน แล้วก็เพื่อนร่วมงานในครั้งเดียวกัน การมีกลุ่มที่อยู่ด้วยแล้ววางใจอย่างงี้ พวกเรารู้สึกว่ามันเป็นกำไรชีวิต

พย าย ามหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วเราจะอย ากไปทำงานมากขึ้น ( นิดหนึ่งก็ยังดี ) ไม่จำเป็นต้องอยู่กลุ่มเดียวกันก็ได้ แค่ได้พบเห็น สนทนาเปลี่ยนความเซ็งดีแล้ว ให้เราทดลองถามตัวเองว่า "ถ้าเกิดพวกเราลาออกจากที่นี่ พวกเรายังจะอย ากนัดหมายคนนี้กินข้าวอยู่ไหม" ถ้าหากคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย คุณพบสหายจริงๆในสถานที่ทำงานแล้ว

8. จงเป็น " ลูกจ้างมืออาชีพ "

สรุปสั้นๆตามหัวข้อเลย ถ้าหากอย ากประสบผลสำเร็จ รวมทั้ง เป็นสุข ควรเป็น " ผู้รับจ้างมืออาชีพ " ให้ได้ พูดง่ายแต่ว่าทำย ากนะ เนื่องจากว่าผู้รับจ้างมือโปรก็คือคนที่ใส่ใจได้ว่า " เราถูกจ้างมาด้วยค่าแรงปริมาณหนึ่ง " ซึ่งก็กล่าวได้ว่าบริษัทเค้าอยากอะไรบางอย่ างจากเราแลกเปลี่ยนกับค่าจ้างนั้นๆ

พวกเราจำต้องทราบว่าบริษัทว่าจ้างเรามาทำอะไร และ ทำมันให้ดีมากยิ่งกว่าที่บริษัทคาดหวังถ้าหากอยากความรุ่งโรจน์ในหน้าที่ ถ้าเกิดงานที่ทำอยู่มีความรู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่ควรทรหดอดทนทำไป


ควรหางานที่พวกเราทำแล้วเราสุขสบายและก็ทำได้ดีเพื่อดึงความสามารถของตนเองออกมาให้สูงที่สุด นอกเหนือจากการที่จะทำให้เราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังส่งผลให้เราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเวลาและไม่เบื่อด้วย

เมื่อถึงจุดๆหนึ่งเราจะทราบเองว่าควรไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ถูกใจให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าผู้อื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกจำนวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าเกิดท้ายที่สุดเราพบสายอาชีพที่พวกเรารักและอย ากทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมากมาย

รวมทั้งด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน " เราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าแรงจำนวนหนึ่ง " อย่ าทำงานหนักเกินกว่าค่าแรงงานจนถึงเกินความจำเป็น ทุ่มเทได้ แต่ควรมีคำตอบที่ดีตามออกมาด้วย ดังเช่นได้ปรับค่าตอบแทนรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับพ่อแม่ เครือญาติๆบ้ า ง หันกลับไปดูข้างหลังบ้ า งว่าคนที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ในเวลานี้เค้าคืออะไรกันบ้ า งนะ...? อย่ าลืมว่าพ่อแม่อายุมากขึ้นทุกวี่ทุกวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าหากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้ท่านแล้วหาเวลาไป มันไม่ทุกข์ยากลำบากหรอก แลกเปลี่ยนกับความสบายของบิดามารดา
ลูกน้อง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13457/